ผู้เขียน หัวข้อ: รถยนต์ใหม่ 2030: เทียบรุ่นย่อย All new Honda CR-V แตกต่างกันอย่างไร?  (อ่าน 108 ครั้ง)

siritidaphon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 429
    • ดูรายละเอียด
ALL-NEW HONDA CR-V รถ​ SUV​ ที่มีรุ่นย่อยให้เลือกทั้งแบบ 5​ และ​ 7​ ที่นั่ง และยังมีขุมพลัง 2 ทางเลือกคือ แบบฟูลไฮบริด  2.0 e:HEV และเบนซิน 1.5 Turbo ในราคาเริ่มต้นที่ 1,419,000 บาท ที่นี่ถ้าสนใจอยากจะซื้อมาใช้งานจะเลือกรุ่นย่อยไหนดี และมีออปชั่นต่างกันอย่างไรตามมาครับ!!

พลังขับเคลื่อนก่อนมีให้เลือก 2 แบบ ตามความต้องการใช้งานและงบประมาณ
ขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ได้แก่ มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive) กับเครื่องยนต์ใหม่ขนาด 2.0 ลิตร Direct Injection Atkinson-Cycle DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนที่มีประสิทธิภาพสูง ตอบสนองทันใจด้วยแรงบิดมอเตอร์สูงสุด 335 นิวตัน-เมตร ที่ 0 - 2,000 รอบต่อนาที มอบอัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมสูงสุดถึง 20.8 กม./ลิตร* (รุ่น e:HEV ES) และมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 113 กรัม/กิโลเมตร
หมายเหตุ อัตรสิ้นเปลืองจริงในไฮบริดรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าหรือ ES ทำได้จริงประมาณ 18 - 21 กม./ลิตร ในเมือง ส่วนนอกเมืองราว ๆ 22 กม./ลิตร ส่วนในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ หรือ RS นั้นจะลดลงไปราว ๆ 2 - 4 กม./ลิตร ขึ้นกับสภาพการจราจรและลักษณะการขับขี่ด้วยครับ*
 
เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร Direct Injection DOHC VTEC TURBO 4 สูบ 16 วาล์ว ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Direct Injection และ Turbocharger ขับสนุก อัตราเร่งทันใจ มอบกำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที ผสานการทำงานกับเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง (CVT) และมีอัตราการประหยัดน้ำมันสูงสุด 14.3 กม./ลิตร* (รุ่น E) และรองรับน้ำมัน E85
หมายเหตุ อัตรสิ้นเปลืองจริงในรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าหรือ E ทำได้จริงประมาณ 10 - 11 กม./ลิตร ในเมือง ส่วนนอกเมืองราว ๆ 12 - 13 กม./ลิตร แต่ถ้าเป็นรุ่น 4WD จะยิ่งกินจุขึ้นอีกประมาณ 2 - 4 กม./ลิตร ขึ้นกับสภาพการจราจรและลักษณะการขับขี่ด้วยครับ*
*(ขับขี่แบบปกติไม่ปั้นไม่แต่งตัวเลขใดใด)
 
ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING)  ทุกรุ่นย่อย
ใหม่ ครั้งแรกกับระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ (Adaptive Driving Beam: ADB) (เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD) ที่ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในเวลากลางคืนและปรับองศาของแสงไฟเพื่อลดการรบกวนรถด้านหน้าและคนเดินถนน
ใหม่ ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง (Multi-view Camera System: MVCS) (ยกเว้นรุ่น E)
ใหม่ เซ็นเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด และ หลัง 4 จุด
ใหม่ ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Hill Descent Control: HDC)
ใหม่ ไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (Active Cornering Light: ACL)
ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning : RDM with LDW)
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)
ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)
ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch)
ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Driver Attention Monitor)
ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift)
ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors) (รุ่น e:HEV ES และ e:HEV RS 4WD)

ออปชั่นที่มีครบทุกรุ่นย่อย
ก่อนจะเจาะลึกออปชั่นปลีกย่อยต่าง ๆ มาดูก่อนว่าอปปชั่นไหนที่มีหรือไม่มีในทุกรุ่นย่อยกันก่อน
Honda SENSING
เบรกมือไฟฟ้า และ Auto Hold
ระบบช่วยออกตัวทางลาดชัน
ระบบช่วยควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน
ไฟหน้าและไฟท้าย LED
ไฟหน้าปรับระดับสูงต่ำอัตโนมัติ
ไฟเลี้ยวด้านหน้า Sequential
ไฟส่องเวลากลางวัน LED
เปิดปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
ไฟตัดหมอกหน้าแบบ LED
เครื่องเสียงจอสัมผัส 9 นิ้ว รองรับ ApplCarPlay ไร้สายและ Android Auto คำสั่ง SIRI
อุปกรณ์ชาร์จไร้สาย
USB 4 ตำแหน่ง
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น
กระจกมองหลังปรับแสงอัตโนมัติ
เบาะไฟฟ้าคู่หน้าคนขับปรับ 8 ทิศทางพร้อมดันหลัง 4 ทิศทาง และแมมโมรี่ ข้างคนขับปรับ 4 ทิศทาง 
กระจกมองข้างพับเก็บอัตโนมัติ (ตั้งค่าเปิด-ปิดได้)
เบาะตอนสองพับ 60 :40
ระบบกันเสียงรบกวนเข้าห้องโดยสาร
กระจกมองข้างด้านซ้ายปรัลระดับลงอัตโนมัติ (ตั้งค่าเปิด-ปิดได้)
ปัดน้ำในอัตโนมัติพร้อมระบบหน่วงเวลา
ฝากระโปรงท้ายไฟฟ้าพร้อมระบบ Handfree และปิดอัตโนมัติเมื่อกุญแจห่างตัวรถ
เสาอากาศครีบฉลาม
กล้องมองด้านซ้ายขณะเปลี่ยนเลน honda Land watch
ระบบล็อกประตูอัตโนมัติเมื่อกุญแจห่างจากตัวรถ
Airbags 7 ตำแหน่ง
แจ้งเตือนลมยาง TPMS
 
สิ่งที่แตกต่างตามรุ่นย่อย
ล้ออัลลอย 18 นิ้ว ยกเว้นรุ่น RS ขนาด 19 นิ้ว แบบสปอร์ต
ปลายท่อสแตนเลสคู่ ยกเว้นรุ่น E
จอแสดงข้อมูลขับขี่ 10.2 นิ้ว ยกเว้นรุ่น E
ลำโพง 8 ตำแหน่ง ยกเว้นรุ่น RS มี 12 ตำแหน่ง
Honda connect ยกเว้นรุ่น E
กล้องมองรอบทิศทาง MVCS ยกเว้นรุ่น E เป็นกล้องมองหลัง
หลังพาโนรามิค ยกเว้นรุ่น E
 
ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 5 รุ่นย่อย ดังนี้
ระบบฟูลไฮบริด e:HEV มาพร้อม 2 รุ่นย่อย ได้แก่
รุ่น e:HEV RS 4WD 5 ที่นั่ง ราคา 1,729,000 บาท 
ชุดตกแต่ง RS
ไฟหน้า LED อัจฉริยะ ADB
ไฟส่องด้านข้างขณะเลี้ยว
กันชนสีเดียวกันรถ
ล้ออัลลอย 19 นิ้ว
กุญแจแบบคีย์การ์ด Honda Smart Key card
ไฟตัดหมอกด้านหลัง
จอแสดงผมสะท้อนกระจก Head up display
เบาะสีดำด้ายแดง
พวงมาลัยด้ายแดง
ระบบนำทาง
เชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สายและ Android Auto
ระบบเสียง Bose
ลำโพง 12 ตำแหน่ง
แอร์อัตโนมัติแยกปรับซ้าย-ขวาแบบ i-Dual Zone
ฟอกอากาศ Plasmaclustor
ไฟ Ambientlight
แป้นคันเร่งและเบรกแบบสปอร์ต
เสียงสังเคราะห์เตือนภายนอกขณะขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า
เซ็นเซอร์กะระยะหน้า 4 หลัง 4 จุด
ชุดซ่อมยางรั่วฉุกเฉิน
ขับเคลื่อน 4 ล้อ
รุ่น e:HEV ES 5 ที่นั่ง ราคา 1,589,000 บาท รุ่นสุดคุ้มในแบบ 5 ที่นั่งออปชั่นเท่ากับรุ่น RS ปรับลดอุปกรณ์บางอย่างออก เช่น
ขับเคลื่อนล้อหน้า
กันชนหน้าหลังสีดำ
ล้ออัลลอย 18 นิ้ว
ไม่มีตัดหมอกหลัง   
ไม่มีกุญแจแบบ Smart key card
ไม่มี Head up Display
ลำโพงแบบธรรมดา 8 ตำแหน่ง
แอร์อัตโนมัติแยกปรับซ้าย-ขวา
ไม่มีระบบนำทาง
ไม่มีระบบส่องสว่างขณะเลี้ยว
ไฟหน้าไม่มีระบบ ADB
เครื่องยนต์เทอร์โบ มาพร้อม 3 รุ่นย่อย ได้แก่
รุ่น EL 4WD 7 ที่นั่ง ราคา 1,649,000 บาท 
รุ่น ES 4WD 5 ที่นั่ง ราคา 1,599,000 บาท
2 รุ่นนี้ เแตกต่างที่ 5 และ 7 ที่นั่ง และแน่นอนว่าที่ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารแถวที่สาม

รุ่น E 5 ที่นั่ง ราคา 1,419,000 บาท ตัดบางส่วนเหลือออปชั่นที่จำเป็น เช่น
ไม่มีแพดเดิ้ลชิฟบนพวงมาลัย
จอแสดงข้อมุลขับขี่ขนาด 7 นิ้ว
หลังคาทึบธรรมดา
ไม่มีปรับไฟหน้าสูงต่ำอัตโนมัติ
ท่อไอเสียแบบเดี่ยว

สรุปรุ่นไหนคุ้มค่าที่สุด 5 ที่นั่งต้อง e:HEV หรือ 7 ที่นั่ง 1.5 Turbo
สำหรับ All-new Honda CR-V ในบรรดารุ่นย่อยที่ให้ความคุ้มค่ามากที่สุดจากความเห็นส่วนตัวมีอยู่ 2 รุ่น ครับ นั่นคือ เครื่องยนต์ 1.5 ลิตรเทอร์โบ รุ่น EL แบบ 7 ที่นั่ง ได้ที่นั่งเยอะอปปชั่นครบ ๆ และราคากลาง ๆ ที่สุด ส่วนที่คุ้มค่าขึ้นไปอีกทั้งเรื่องประหยัดน้ำมัน อัตราเร่งดี ขับสนุกต้องเป็นรุ่นฟลูไฉบริด ES ที่ราคาระดับกลาง ๆ ไม่แรงเกินไป แต่ต้องแลกกับที่นั่งแถวที่สามหายไป เหลือ 5 ตำแหน่ง ใครที่ต้องการรถ SUVแบบ 7 ที่นั่งและ 5 ที่นั่ง อาจจะต้องเลือกให้ตรงกับการใช้งานมากที่สุด ประเมินดูว่าการใช้งานจริงมีผู้โดยสารนั่งเกิน 4 หรือ 5 คนบ่อยแค่ไหนก็เลือก 7 ที่นั่ง แต่ถ้านาน ๆ ทีนั่ง 4 หรือ 5 คน ก็ดูที่รุ่น 5 ที่นั่งก็นับว่าเพียงพอแล้วครับ แต่ถ้างบเหลือ ๆ ไปรุ่น RS ทีเดียวจบท็อปสุดครบทุกฟังก์ชั่น


รถยนต์ใหม่ 2030: เทียบรุ่นย่อย All new Honda CR-V แตกต่างกันอย่างไร? อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/car/article/133489

 

โพสต์ฟรี ลงประกาศฟรี ลงโฆษณาฟรี Google ลงประกาศขายบ้าน ขายที่ดิน ขายคอนโด ขายรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า อาหารเสริม เครื่องสำอางค์ สถานที่ท่องเที่ยว เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ Google